การปลูกพริก ให้ผลผลิตดีมีคุณภาพ 100,000 บาท/ไร่

เทคนิค การปลูกพริก ให้ผลผลิตที่ดีและมีคุณภาพตามที่โรงงานต้องการ
1.เริ่มตั้งแต่การเตรียมเมล็ดพันธุ์ที่วิจัยและพัฒนาโดยบริษัทเพื่อนเกษตรกรจำกัดหลังจากได้เมล็ดมาก็มาแช่น้ำอุ่นประมาณ 3 ชม.จากนั้นเอามาห่อผ้าขาวบางให้สะเด็ดน้ำแล้วทิ้งไว้ 3-4 วันจึงจะเริ่มงอก
2.หลังจากเริ่มงอกก็มาวัสดุปลูกในที่นี้คือ “ดินมีเดีย” ซึ่งเป็นวัสดุเพาะต้นกล้าที่ไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ย เพราะมีสารอาหารพร้อม หมดปัญหาเรื่องวัชพืชขึ้นรบกวน ดินมีเดียตัวนี้สามารถเลี้ยงต้นกล้าอ่อนได้ประมาณ 35 วัน 1 ถาดสามารถเพาะเม็ดพันธุ์ต้นกล้าได้ 104 ต้น ประมาณ 35 วันก็พร้อมลงแปลงต่อไป
3.ระหว่างที่รอกล้าเติบโตก็จะเริ่มเตรียมดินไถแปลงหลังจากฤดูเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จพอดีก็เป็นกิจกรรมของชาวบ้านที่เริ่มเปิดหน้าดิน ไถผาน 3 ผาน 7 แล้วแต่ความเหมาะสมของเกษตรกร ทำดินกลับไปกลับมาแล้วใช้รถปั่นทำให้ดินละเอียด และยกแปลงสำหรับปลูก ความกว้างประมาณ 1.50 เมตร มีพลาสติกคลุมแปลง จะเหลือบนสันแปลงที่จะปลูกประมาณ 1.20 เมตร ระยะห่างระหว่างต้นคือ 55 เซนติเมตร เพื่อให้มีทิศทางในการระบายอากาศ ก่อนปลูกก็มีการหว่านปุ๋ยรองพื้นเป็นสูตร 15-15-15
4.หลังจากเอากล้ามาลงในแปลงแล้ววันรุ่งขึ้นก็เริ่มให้น้ำประมาณ 7 วัน พอประมาณ 10 วันก็เริ่มฉีดยากันพวกเพลี้ย เชื้อรา หนอน มีผลิตภัณฑ์หลายตัวที่ใช้ตามระยะการเจริญเติบโต อย่างในระยะเล็ก จะใช้ยาป้องกันเพลี้ย เพราะเพลี้ยจะมาดูดน้ำเลี้ยงทำให้ยอดหงิก และก็จะมีหนอนรัง ตามที่ชาวบ้านเรียกพวกนี้จะอยู่เป็นกลุ่มจะคอยกินใบต้องคอยฉีดยาทุก 10 วันจากนั้นก็ให้น้ำไปเหมือนเดิม
5.ประมาณ 30-40 วันพริกเริ่มติดดอกเริ่มมีการให้ปุ๋ยสูตรเร่งดอกให้พริกดกปุ๋ยนี้สูตรตัวกลางเยอะ ชาวบ้านเรียก “ปุ๋ยดก”ใส่ไร่ละ 1 ลูก ทิ้งระยะจากตรงนี้ไปประมาณ 30 วันจะเริ่มติดเม็ดพริก ตอนนี้พริกต้องการสารอาหารจากปุ๋ยที่มีตัวท้ายสูงเพื่อให้พริกน้ำหนักดี สีดี ใส่ปุ๋ยโรยในร่อง ฉีดยาและให้น้ำ ยาที่ใช้พวกนี้ก็คือกันแมลง เชื้อรา และพวกธาตุอาหารเสริม พอประมาณ 120 วันจะเริ่มแดง เริ่มเก็บมาเรื่อยๆ นับไปประมาณ 2 เดือนเวลาในการเก็บคือ 1อาทิตย์/ครั้ง ใน 1 แปลงจะเก็บอยู่ประมาณ 8 ครั้ง 2 เดือนถือว่าจบ 1 ครอปพอดี (ระยะเวลาเริ่มเพาะกล้าประมาณกลางเดือนตุลาคม จนถึงเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จประมาณเดือนมีนาคม) หลังจากนั้นก็จะเว้นวรรคไปสู่การทำนา หลังจากทำนาก็จะวนเวียนกลับมาทำพริกเป็นวัฏจักรอย่างนี้เรื่อยไป
ที่มา https://www.palangkaset.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น