อดีตตำรวจ ผันตัวเป็นเกษตรกร ปลูกปาล์ม ยางพารา ผลไม้ ที่ระนอง เก็บผลผลิตขาย รายได้2 แสน/เดือน


อดีตข้าราชการตำรวจวัยเกษียณ เกิดที่นครศรีธรรมราช ผันตัวมาสวมบทบาทเกษตรกร และใช้ชีวิตอยู่ที่อำเภอเมืองจังหวัดระนอง ด้วยการปลูกปาล์ม ปลูกยางพารา ปลูกผักสวนครัว และบรรดาผลไม้สารพัด บนที่ดิน 170 ไร่ แถมลดต้นทุนด้วยการทำปุ๋ยใช้เอง จนเได้รับรางวัลเกษตรกรดีเด่น สาขาอาชีพทำสวน ปี 2555 ปัจจุบันเก็บผลผลิตขาย มีรายได้หล่อเลี้ยงครอบครัวไม่ต่ำกว่าเดือนละ 2 แสน

ดาบตำรวจ สมนึก ยกตัวอย่างการลดรายจ่ายค่าแรงงาน เช่น การตัดหญ้าในสวนปาล์มน้ำมัน ต่อครั้งบนเนื้อที่ 100 ไร่ หากจ้างตัดหญ้า ไร่ละ 400 บาท เสียค่าจ้างรวม 40,000 บาท แต่หากใช้แทรกเตอร์เล็ก ตัดหญ้าในสวนเอง ค่าใช้จ่ายเพียงค่าน้ำมันไม่กี่พันบาท แถมเร็วกว่าด้วย
การลดค่าแรงในการใส่ปุ๋ย หากจ้างใส่ปุ๋ย ค่าแรง กระสอบละ 50 บาท ใส่ปุ๋ยครั้งละกว่า 100 กระสอบ เสียค่าใช้จ่ายมาก จึงได้นำเครื่องใส่ปุ๋ยมาใช้ในสวน เพื่อลดแรงงานในสวน จากการนำรถแทรกเตอร์เล็กและเครื่องใส่ปุ๋ยมาใช้ทำให้ลดค่าใช้จ่ายค่าแรงงานได้มาก
นอกจากนั้น คุณสมนึกยังใช้พื้นที่ว่างในสวนปาล์มน้ำมันให้เกิดประโยชน์ ด้วยการปลูกผักสวนครัวมากมาย 30 กว่าชนิด บนพื้นที่ 20 ไร่ อาทิ ข่าเหลือง ผักเหลียง กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม กล้วยไข่ เงาะ มังคุด ลองกอง สะตอ และยางพาราอีก 50 ไร่
“ผมปลูกผักเหลียงแซมระหว่างต้นปาล์มน้ำมัน ราว 2,500 ต้น โดยพื้นที่ 1 ไร่ ผลผลิตผักเหลียงราว 800 กิโลกรัมต่อปี ตัดขายเดือนละ 2 ครั้ง มีรายได้เสริมเดือนละ 10,000 บาท นอกจากปลูกเพื่อขายใบแล้วจะเพาะชำกิ่งขายเป็นรายได้อีกทางหนึ่งด้วย”
ด้วยความขยันหมั่นเพียร ปัจจุบันพื้นที่ 170 ไร่ ของ ด.ต.สมนึก เต็มไปด้วยพืชเศรษฐกิจหลายชนิดได้ผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจ สร้างรายได้เฉลี่ยเดือนละ 2 แสนบาท
ที่มา https://www.sentangsedtee.com

อดีตตำรวจ ผันตัวเป็นเกษตรกร ปลูกปาล์ม ยางพารา ผลไม้ ที่ระนอง เก็บผลผลิตขาย รายได้2 แสน/เดือน

อดีตตำรวจ ผันตัวเป็นเกษตรกร ปลูกปาล์ม ยางพารา ผลไม้ ที่ระนอง เก็บผลผลิตขาย รายได้2 แสน/เดือน


อดีตข้าราชการตำรวจวัยเกษียณ เกิดที่นครศรีธรรมราช ผันตัวมาสวมบทบาทเกษตรกร และใช้ชีวิตอยู่ที่อำเภอเมืองจังหวัดระนอง ด้วยการปลูกปาล์ม ปลูกยางพารา ปลูกผักสวนครัว และบรรดาผลไม้สารพัด บนที่ดิน 170 ไร่ แถมลดต้นทุนด้วยการทำปุ๋ยใช้เอง จนเได้รับรางวัลเกษตรกรดีเด่น สาขาอาชีพทำสวน ปี 2555 ปัจจุบันเก็บผลผลิตขาย มีรายได้หล่อเลี้ยงครอบครัวไม่ต่ำกว่าเดือนละ 2 แสน

ดาบตำรวจ สมนึก ยกตัวอย่างการลดรายจ่ายค่าแรงงาน เช่น การตัดหญ้าในสวนปาล์มน้ำมัน ต่อครั้งบนเนื้อที่ 100 ไร่ หากจ้างตัดหญ้า ไร่ละ 400 บาท เสียค่าจ้างรวม 40,000 บาท แต่หากใช้แทรกเตอร์เล็ก ตัดหญ้าในสวนเอง ค่าใช้จ่ายเพียงค่าน้ำมันไม่กี่พันบาท แถมเร็วกว่าด้วย
การลดค่าแรงในการใส่ปุ๋ย หากจ้างใส่ปุ๋ย ค่าแรง กระสอบละ 50 บาท ใส่ปุ๋ยครั้งละกว่า 100 กระสอบ เสียค่าใช้จ่ายมาก จึงได้นำเครื่องใส่ปุ๋ยมาใช้ในสวน เพื่อลดแรงงานในสวน จากการนำรถแทรกเตอร์เล็กและเครื่องใส่ปุ๋ยมาใช้ทำให้ลดค่าใช้จ่ายค่าแรงงานได้มาก
นอกจากนั้น คุณสมนึกยังใช้พื้นที่ว่างในสวนปาล์มน้ำมันให้เกิดประโยชน์ ด้วยการปลูกผักสวนครัวมากมาย 30 กว่าชนิด บนพื้นที่ 20 ไร่ อาทิ ข่าเหลือง ผักเหลียง กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม กล้วยไข่ เงาะ มังคุด ลองกอง สะตอ และยางพาราอีก 50 ไร่
“ผมปลูกผักเหลียงแซมระหว่างต้นปาล์มน้ำมัน ราว 2,500 ต้น โดยพื้นที่ 1 ไร่ ผลผลิตผักเหลียงราว 800 กิโลกรัมต่อปี ตัดขายเดือนละ 2 ครั้ง มีรายได้เสริมเดือนละ 10,000 บาท นอกจากปลูกเพื่อขายใบแล้วจะเพาะชำกิ่งขายเป็นรายได้อีกทางหนึ่งด้วย”
ด้วยความขยันหมั่นเพียร ปัจจุบันพื้นที่ 170 ไร่ ของ ด.ต.สมนึก เต็มไปด้วยพืชเศรษฐกิจหลายชนิดได้ผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจ สร้างรายได้เฉลี่ยเดือนละ 2 แสนบาท
ที่มา https://www.sentangsedtee.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น