มาเลี้ยงผึ้ง สร้างรายได้ปีละกว่า 3 ล้าน
เศรษฐีจบเพียง ป.5 ครึ่ง จากคนไร้บ้านอาศัยเถียงนาเพื่อน เลี้ยงผึ้งจนมีรายได้วันละ 2 แสน ปีละกว่า 3 ล้านบาท ผลิตน้ำผึ้งไม่พอขายหวังสร้างเครือข่ายทั่วจังหวัดเตรียมส่งนอก ชี้ “งานยาก ได้เงินมาก งานง่าย ได้เงินน้อย” ต้องอดทน ขยันจึงจะประสบความสำเร็จ
เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านห้วยเกี๋ยง ต.ห้วยยางขาม อ.จุน จ.พะเยา เพื่อสัมภาษณ์นายโรจน์ศักดิ์ ถาวร หรือลุงหนานชาญ (ทิดชาญ) อายุ 66ปี เจ้าของฟาร์มผึ้งเงินล้าน” หนานชาญ ฟาร์มผึ้ง” ที่สร้างตัวเองมาจากผึ้งเพียงรังเดียว จนมีฐานะอยู่ในขั้นผู้มีอันจะกินของตำบลห้วยยางขาม
ลุงหนานชาญ กล่าวว่า ตนเองสมัยเด็กมีฐานะยากจน ทำให้มีโอกาสเรียนเพียงแค่ชั้น ป.5ครึ่ง คือเรียน ป.6 ได้ครึ่งเทอมก็ต้องลาออก เพราะไม่มีเงินเรียนต่อ จากนั้นก็หางานทำสารพัดที่เป็นเงินทำหมด จนกระทั่งเรียนรู้เรื่องช่าง และผันตัวเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง แต่ก็ถูกพิษต้มยำกุ้งปี 2540 จนสิ้นเนื้อประดาตัว ต้องอาศัยเถียงนาของเพื่อนแทนบ้านและทำเกษตรเล็กๆ น้อยๆ พอเป็นรายได้ประทังชีวิต
กระทั่งปี 2546 เพื่อนไปอบรมเรื่องการเพาะเลี้ยงผึ้งและได้รังผึ้งมาประมาณ 10 ลัง จึงยืมลังผึ้งของเพื่อนมา 1ลังมาลองเลี้ยงดู ซึ่งได้ผลดีมาก จากนั้นก็ขยายขึ้นเป็น 4 ลัง ในเวลา 1ปี สามารถขายน้ำผึ้งได้ถึง 20,000 บาท ซึ่งก็หมายความว่าผึ้ง 1 ลัง ใน 1 ปี ให้น้ำผึงประมาณ 50 กก. ราคาขาย กก. ละ100บาท จึงเกิดความคิดว่า ถ้าเราเพิ่มจำนวนลังผึ้งไปเรื่อยๆ เป็น 100 หรือ 200 ลัง รายได้ต่อปีคงจะมากมายกว่าราคาพืชผลทางการเกษตรอื่นแน่นอน จึงเริ่มเพิ่มจำนวนลังผึ้งขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบัน ลุงหนานชาญมีรังผึ้งที่ให้ผลผลิตตลอดปีกว่า 600 ลัง ซึ่งก็หมายความว่าในหนึ่งปีหนานชาญจะมีรายได้จากการขายน้ำผึ้งถึงกว่า3,000,000บาท หรือมีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 250,000บาท วันละ 8,220บาท เลยทีเดียว
สำหรับการเก็บน้ำผึ้งจะทำอยู่ 3 รอบ คือช่วงที่ดอกขี้ไก่ย่านหรือดอกขี้เหล็กย่านผลิดอก ดอกหญ้าสาปเสือผลิดอกและดอกลำไยผลิดอก ซึ่งผึ้งจะหากินน้ำหวานจากเกสรดอกเหล่านี้ จะเป็นน้ำผึ้งคุณภาพ มีกลิ่นหอม รสชาติหวานลิ้น มีสรรพคุณทางยาครบถ้วน เป็นที่ต้องการของตลาดและราคาไม่ตก
“ที่ผมพึ่งแสดงตัวว่าการเพาะเลี้ยงผึ้งสามารถสร้างเงิน สร้างฐานะและอยู่กับครอบครัวได้ เพราะผมมั่นใจเวลา 14 ปี ที่ผมทำมามันทำได้จริง ไม่ใช่เรื่องฉาบฉวย เมื่อผมมั่นใจในสิ่งที่ผมทำผมจึงอยากมาบอกให้ชาวบ้านรู้ เขาจะได้ไม่ลำบากไปเริ่มเรียนรู้หรือลองผิดลองถูกเอง เพียงแต่ต้องใส่ใจ ขยันและอดทนเท่านั้น งานยาก ได้เงินมาก งานง่าย ได้เงินน้อย ผมคิดแบบนี้นะ” ลุงหนานชาญกล่าวทิ้งท้าย
ปัจจุบันลุงหนานชาญ มีฐานะอยู่ในขั้นมีอันจะกินในตำบลห้วยยางขาม มีฟาร์มเลี้ยงผึ้ง มีโรงสี บ้าน ที่ดิน สวน มีปัจจัย 4 ครบ จึงอยากนำความรู้และประสบการณ์การเลี้ยงผึ้งมาช่วยสอนชาวบ้านที่ต้องการทางเลือกในการหารายได้พิเศษจากหน้าที่ประจำ หรือจะทำเป็นอาชีพประจำ เพื่อสร้างฐานะให้เป็นปึกแผ่น ไม่ต้องลำบากเหมือนตนเองในสมัยก่อน และยินดีจะให้คำปรึกษา หรือมาศึกษาดูงานของนักเรียน นักศึกษาหรือผู้ที่สนใจ ก๋็ยินดีจะถ่ายทอดให้ทั้งหมดเพื่อเป็นวิทยาทาน
ที่มา http://money.sanook.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น