อดีตคนงานสู้ชีวิต! หันปลูกพืชหมุนเวียนหลังฤดูกาลทำนา สร้างรายได้ทั้งปี



อดีตคนงานโรงไม้สู้ชีวิต! พลิกวิกฤตหนีความยากจน หันมาปลูก “พืชหมุนเวียน” หลังฤดูกาลทำนา สร้างรายได้ตลอดทั้งปี
ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า ได้พบกับ นายปัญญา สุดาปั่น อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 38 บ้านโคกโต้ง หมู่ที่ 22 ต.ชุมพลบุรี อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ อดีตคนงานโรงไม้แห่งหนึ่งในตัว อ.ชุมพลบุรี สู้ชีวิตเพื่อหนีจากความยากจนและภาระหนี้สินที่รุมเร้า พลิกวิกฤตให้กลายเป็นโอกาสด้วยการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ ด้วยการพาภรรยาและครอบครัวหันปลูกพื้นหมุนเวียนหลังฤดูกาลทำนาบนผืนดินมรดกตกทอดผืนสุดท้าย เนื้อที่ 25 ไร่ สามารถสร้างรายได้ตลอดทั้งปี
นายปัญญา กล่าวว่า แต่ก่อนตนทำงานเป็นลูกจ้างขายแรงงานอยู่ที่โรงงานไม้ แถวอำเภอชุมพลบุรี พออายุเริ่มมากแล้วจึงอยากออกมาทำไร่-นา สวนผสม ปลูกพืชหมุนเวียน สามารถสร้างรายได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะตนจะปลูกทั้งกล้วย พริก ข้าวโพด บวบ และถั่วฝักยาว ซึ่งทำให้ตนและครอบครัวมีรายได้วันละ 300-400 บาทต่อวัน ในเนื้อที่ 25 ไร่แบ่งมาปลูกพืชทำเป็นไร่นาสวนผสม จำนวน 5 ไร่ และอีก 20 ไร่ ตนได้หว่านเมล็ดถั่วพร้าเพื่อลดต้นทุนในการใช้สารเคมี และลดต้นทุนในการใช้ปุ๋ยเคมีไปในตัว
บรรดาพืชผักที่เก็บได้ทั้งหมดตนก็เอาไปขายที่ตลาดสดเทศบาลชุมพลบุรี ไม่ว่าจะเป็นพริก บวบ ข้าวโพด ถั่วฝักยาว มันเทศ มะรุม และ กล้วย เพื่อสร้างรายได้เสริมให้แก่ครอบครัว ทุกวันนี้ไม่มีภาระหนี้สินแถมกลับมีสุขภาพดีขึ้น ที่สำคัญได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา พ่อ แม่ ลูก อย่างมีความสุข บั่นปลายชีวิตไม่ต้องไปออกทำงานแบกหามเร่ขายแรงงานเหมือนแต่ก่อน นอกจากนี้ ยังได้ทำน้ำหมักเพื่อไปฉีดแทนยาฆ่าแมลง พืชผักของตนอาจจะดูไม่สวยงาม แต่ทุกต้นที่ปลุกปลอดสารเคมีสารพิษ 100% ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมด้วย


อดีตคนงานสู้ชีวิต! หันปลูกพืชหมุนเวียนหลังฤดูกาลทำนา สร้างรายได้ทั้งปี


อดีตคนงานสู้ชีวิต! หันปลูกพืชหมุนเวียนหลังฤดูกาลทำนา สร้างรายได้ทั้งปี



อดีตคนงานโรงไม้สู้ชีวิต! พลิกวิกฤตหนีความยากจน หันมาปลูก “พืชหมุนเวียน” หลังฤดูกาลทำนา สร้างรายได้ตลอดทั้งปี
ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า ได้พบกับ นายปัญญา สุดาปั่น อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 38 บ้านโคกโต้ง หมู่ที่ 22 ต.ชุมพลบุรี อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ อดีตคนงานโรงไม้แห่งหนึ่งในตัว อ.ชุมพลบุรี สู้ชีวิตเพื่อหนีจากความยากจนและภาระหนี้สินที่รุมเร้า พลิกวิกฤตให้กลายเป็นโอกาสด้วยการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ ด้วยการพาภรรยาและครอบครัวหันปลูกพื้นหมุนเวียนหลังฤดูกาลทำนาบนผืนดินมรดกตกทอดผืนสุดท้าย เนื้อที่ 25 ไร่ สามารถสร้างรายได้ตลอดทั้งปี
นายปัญญา กล่าวว่า แต่ก่อนตนทำงานเป็นลูกจ้างขายแรงงานอยู่ที่โรงงานไม้ แถวอำเภอชุมพลบุรี พออายุเริ่มมากแล้วจึงอยากออกมาทำไร่-นา สวนผสม ปลูกพืชหมุนเวียน สามารถสร้างรายได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะตนจะปลูกทั้งกล้วย พริก ข้าวโพด บวบ และถั่วฝักยาว ซึ่งทำให้ตนและครอบครัวมีรายได้วันละ 300-400 บาทต่อวัน ในเนื้อที่ 25 ไร่แบ่งมาปลูกพืชทำเป็นไร่นาสวนผสม จำนวน 5 ไร่ และอีก 20 ไร่ ตนได้หว่านเมล็ดถั่วพร้าเพื่อลดต้นทุนในการใช้สารเคมี และลดต้นทุนในการใช้ปุ๋ยเคมีไปในตัว
บรรดาพืชผักที่เก็บได้ทั้งหมดตนก็เอาไปขายที่ตลาดสดเทศบาลชุมพลบุรี ไม่ว่าจะเป็นพริก บวบ ข้าวโพด ถั่วฝักยาว มันเทศ มะรุม และ กล้วย เพื่อสร้างรายได้เสริมให้แก่ครอบครัว ทุกวันนี้ไม่มีภาระหนี้สินแถมกลับมีสุขภาพดีขึ้น ที่สำคัญได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา พ่อ แม่ ลูก อย่างมีความสุข บั่นปลายชีวิตไม่ต้องไปออกทำงานแบกหามเร่ขายแรงงานเหมือนแต่ก่อน นอกจากนี้ ยังได้ทำน้ำหมักเพื่อไปฉีดแทนยาฆ่าแมลง พืชผักของตนอาจจะดูไม่สวยงาม แต่ทุกต้นที่ปลุกปลอดสารเคมีสารพิษ 100% ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมด้วย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น