วิธีเพาะเห็ดหลินจือ เห็ดเงินล้าน!
เพาะเห็ดหลินจือขาย อาชีพทำเงิน ; เห็ดหลินจือ มีสรรพคุณทางยาที่เป็นสารแอนติอ๊อกซิแดนช์ มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระลดการเกิดมะเร็ง รวมถึงการป้องกันมะเร็งได้อีกด้วย จึงทำให้ราคาเห็ดหลินจือสูง สำหรับท่านที่สนใจอยากเพาะเห็ดหลินจือ BangkokToday.Net มีเรื่องราวดีๆและวิธีเพาะเห็ดหลินจือโดยเจ้าของฟาร์มเห็ดหลินจือ ที่ประสบความสำเร็จ
“เห็ดหลินจือ” ทำให้การแพร่หลายในฐานะเห็ดเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่ง อาจดูไม่กว้างขวางอย่างเช่น เห็ดภูฎาน เห็ดฮังการี หรือเห็ดโคนญี่ปุ่น (เห็ดยานางิ) ซึ่งคนส่วนใหญ่ เริ่มรู้จักกันดี แต่ในมุมกลับกันสำหรับคนที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น หลายๆคน กลับมามีสุขภาพดีได้อีกครั้ง เหมือนดังเช่น “ลุงยุทธ์” หรือ ชื่อจริง คือ ลุงหยุด แช่มประเสริฐ ซึ่งเป็นเจ้าของ ฟาร์มเห็ดหลินจือและเห็ดเศรษฐกิจอีกนานาชนิดที่ อ.วิหารแดง จ.สระบุรี รายนี้ จากจุดเริ่มต้นที่ต้องการจะรักษาตัวเองให้หายป่วยจากโรคต่างๆ ที่รุมเร้า ครั้นเมื่อร่างกายเริ่มแข็งแรงและกลับมาเป็นปกติ แล้วจึงมีความตั้งใจที่จะเผยแพร่ “ตัวยาดี” ให้กับคนอื่นได้นำไปประโยชน์บ้าง จึง ได้เปิดฟาร์มเห็ดหลินจือ ขึ้นมาซึ่งมีการจัดการอย่างเป็นระบบและการผลิตแบบครบวงจรในปัจจุบัน
สุขภาพดีด้วย “เห็ดหลินจือ” ลุงยุทธ์ เล่าว่า ย้อนไปเมื่อ 3-4 ปีก่อนสุขภาพของตนไม่ค่อยดีนัก ป่วยเป็นโรคต่างๆ อยู่หลายโรคด้วยกัน อาทิ เช่น โรคปอด โรคเลือดจาง และภูมิแพ้ เป็นต้น ทำให้ต้องคอยเข้าๆ ออกๆโรงพยาบาล อยู่เสมอ เพื่อไปพบแพทย์ ตามที่นัดอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งได้รู้จัก “เห็ดหลินจือ” จากบุคคลท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นส่วนตัวแล้วตนมีความนับถือในฐานะเป็นอาจารย์ ซึ่งท่านผู้นั้นมีชื่อว่า “อาจารย์โกหย่ง” เป็นชาวไต้หวันซึ่งมาทำฟาร์มเห็ดหลินจืออยู่ที่คลอง 8 แม้จะมีอายุมากแล้ว โดยได้ชื่อว่าเป็นคนอายุยืน และมีสุขภาพที่แข็งแรงมาก ซึ่งได้แนะนำให้ตนรับประทานเห็ดหลิงจือ เพราะตัวท่านอาจารย์โกหย่งเองก็รับประทานอยู่เป็นประจำ และได้ให้เชื้อพันธุ์ของเห็ดชนิดนี้เพื่อนำกลับมาเพาะเลี้ยงสำหรับไว้รับประทานเองด้วย ผ่านมา 3 ปี กว่าเกือบจะ 4 ปีแล้วหลังจากที่รับประทานเห็ดหลินจือ โดยตนจะต้มเอา “น้ำเห็ด” สำหรับดื่ม เป็นประจำทุกวัน มาโดยตลอด ปรากฏว่าสุขภาพกลับมาเป็นปกติดี ร่างกาย แข็งแรงขึ้น และที่สำคัญคือว่าตอนนี้ตนไม่ต้องไปหาหมออีกด้วย
วิธีเพาะเห็ดหลินจือ
ก่อนหน้าจะมาทำฟาร์มเห็ดหลินจือนั้น ลุงยุทธ์เล่าให้ฟังว่า เดิมตนก็มีกิจการฟาร์มเห็ด (เพาะ และขายก้อนเชื้อเห็ด) อาทิ เห็ดฟาง เห็ดนางรม เห็ดนางฟ้า เห็ดเป๋าฮื้อ และเห็ดขอน ซึ่งครอบครัวได้เปิดดำเนินการมาหลายปีแล้ว เพราะในเขต อ.วิหารแดง ที่นอกจากจะเคยมีชื่อเสียงในด้านการเลี้ยง “เป็ดไข่” อีกด้านหนึ่งยังได้ชื่อว่าเป็นแหล่ง “ เห็ดเศรษฐกิจ” โดยมีการเพาะเป็นอาชีพกันอย่างหลากหลายชนิดด้วย และสำหรับเห็ดหลินจือนั้นซึ่งพอหลังจากตนเห็นว่าเพาะไว้รับประทานเองแล้ว จึงได้ศึกษาเกี่ยวกับวิธีผลิตเชื้อเห็ดเพื่อการขยายพันธุ์เป็นการเพิ่มเติม โดยเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการเคี่ยววุ้น เลี้ยงเนื้อเยื่อ ทำเองหมดเลยทุกขั้นตอนจนกระทั่งผลิตดอกเห็ดออกมา ซึ่งเมื่อประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดีแล้วต่อจากนั้นก็เลยขยายผลโดยทำเป็นในรูปของฟาร์มเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้มีโรงเรือนสำหรับผลิตดอก (ขนาดความจุ 8,000 – 9,000 ก้อน) จำนวน 2 โรงจากทั้งหมด 10 โรง ที่มีการเพาะเห็ดอื่นๆ อยู่ในฟาร์มด้วย
ผลตอบแทนและตลาดของเห็ดหลินจือ
จากราคาก้อนที่ลุงยุทธ์จำหน่าย 10 บาท /ก้อน ในปัจจุบัน การเพาะเห็ดหลินจือจะเริ่มคืนทุนตั้งแต่เก็บดอกรุ่นแรก พอมารุ่นที่สองจะเริ่มมีกำไรเพิ่มขึ้นและถ้ารุ่นที่สามก็ถือว่าเป็นผลพลอยได้อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ในส่วนของทางฟาร์มเองนั้นลุงยุทธ์บอกว่า รายได้ที่เกิดจาก “ดอกเห็ด” ซึ่งจะต้องทำให้แห้ง(ตาก) ก่อนจำหน่ายอยู่ที่ราคาประมาณ 1,000 – 3,000 บาท/กก. การเพาะจะทำ อยู่ประมาณ 2-3 ครั้ง / ปี โดยหลักๆ แล้วลูกค้าประจำจะเป็นชาวไต้หวัน ซึ่งมาซื้อยู่ประมาณ 40-50 กก.ทุกปี
ที่มา http://www.bangkoktoday.net
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น