อาชีพอิสระ..เปิดร้านขายขนมไทยง่ายๆ กำไรหลายหมื่น !
มาพูดถึง อาชีพอิสระ อย่างเปิดร้านขายขนมไทย เป็นธุรกิจที่ได้อนุรักษ์ความเป็นไทยให้คงอยู่ และในปัจจุบันก็หาทานขนมไทยได้ยากมาก การเปิดร้านขายขนมไทยจึงเป็นไอเดียธุรกิจส่วนตัวที่น่าสนใจในเวลานี้กันเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนเราจะต้องรู้จักและทำขนมไทยเป็น และอีกอย่างที่เราจะต้องรู้เพื่อให้เราได้กำไรจากการเปิดร้านขายขนมไทย คือ การวางแผนในการขายนั้นเอง ในบทความนี้จะพาไปรู้จักกับขนมไทย ตัวอย่างและวิธีทำ และแนวทางการเปิดร้านทำ อาชีพอิสระทําเงิน ให้อยู่รอดและได้กำไรหลักหมื่นขึ้น
อาชีพอิสระ..จะเปิดร้านขนมไทยอย่างไรดี ?
ก่อนอื่นเราต้องมารู้จักกับขนมไทยกันก่อน ขนมไทย คือขนมที่มีเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทยคือ มีความละเอียดอ่อนประณีตในการเลือกสรรวัตถุดิบ วิธีการทำ ที่พิถีพิถัน รสชาติอร่อยหอมหวาน สีสันสวยงาม รูปลักษณ์ชวนรับประทาน ตลอดจนกรรมวิธีที่ประณีตบรรจง ในสมัยโบราณคนไทยจะทำขนมเฉพาะวาระสำคัญเท่านั้น เป็นต้นว่างานทำบุญ งานแต่ง เทศกาลสำคัญ หรือต้อนรับแขกสำคัญ การจะทำ อาชีพอิสระทําเงิน อย่าง เปิดร้านขายขนมไทยได้นั้นต้องมีความพิถีพิถัน ใส่ใจในรสชาติ ขนมไทยบางชนิดอาจใช้เวลาทำนานหน่อย แต่ก็เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมาก
ประเภทของขนมไทย ในการทำ อาชีพอิสระ
ขนมไทยแต่ละประเภทแบ่งตามวิธีการทำให้สุกได้ดังนี้
1. ขนมที่ทำให้สุกด้วยการกวน ส่วนมากใช้กระทะทองในการทำ กวนตั้งแต่เป็นน้ำเหลวใสจนงวด แล้วเทใส่พิมพ์หรือถาดเมื่อเย็นจึงตัดเป็นชิ้น เช่น ตะโก้ ขนมลืมกลืน ขนมเปียกปูน หรือผลไม้กวนต่างๆ
2. ขนมที่ทำให้สุกด้วยการนึ่ง ใช้จะใช้ลังถึงในการทำ บางชนิดเทส่วนผสมใส่ถ้วยตะไลแล้วนึ่ง บางชนิดใส่ถาดหรือพิมพ์ บางชนิดห่อด้วยใบตองหรือใบมะพร้าว เช่น ช่อม่วง ขนมชั้น ข้าวต้มผัด สาลี่อ่อน สังขยา
3. ขนมที่ทำให้สุกด้วยการเชื่อม เป็นการใส่ส่วนผสมลงในน้ำเชื่อมที่กำลังเดือดจนสุก ได้แก่ ทองหยอด ทองหยิบ ฝอยทอง เม็ดขนุน กล้วยเชื่อม เป็นต้น
4. ขนมที่ทำให้สุกด้วยการทอด เป็นการใส่ส่วนผสมลงในกระทะที่มีน้ำมันร้อนๆ จนสุก เช่น กล้วยทอด ข้าวเม่าทอด ขนมกง ขนมค้างคาว ขนมฝักบัว
5. ขนมที่ทำให้สุกด้วยการนึ่งหรืออบ ได้แก่ ขนมหม้อแกง ขนมหน้านวล ขนมกลีบลำดวน ขนมทองม้วน สาลี่แข็ง ขนมจ่ามงกุฏ นอกจากนี้ อาจรวม ขนมครก ขนมเบื้อง ไว้ในประเภทนี้ด้วย
6. ขนมที่ทำให้สุกด้วยการต้ม ขนมประเภทนี้จะใช้หม้อหรือกระทะต้มน้ำให้เดือด ใส่ขนมลงไปจนสุกแล้วตักขึ้น นำมาคลุกหรือโรยมะพร้าว ได้แก่ ขนมถั่วแปบ ขนมต้ม ขนมเหนียว ขนมเรไร นอกจากนี้ยังรวมขนมประเภทน้ำ ที่นิยมนำมาต้มกับกะทิ หรือใส่แป้งผสมเป็นขนมเปียก และขนมที่กินกับน้ำเชื่อมและน้ำกะทิ เช่น กล้วยบวชชี มันแกงบวด สาคูเปียก ลอดช่อง ซ่าหริ่ม เป็นต้น
1. ขนมที่ทำให้สุกด้วยการกวน ส่วนมากใช้กระทะทองในการทำ กวนตั้งแต่เป็นน้ำเหลวใสจนงวด แล้วเทใส่พิมพ์หรือถาดเมื่อเย็นจึงตัดเป็นชิ้น เช่น ตะโก้ ขนมลืมกลืน ขนมเปียกปูน หรือผลไม้กวนต่างๆ
2. ขนมที่ทำให้สุกด้วยการนึ่ง ใช้จะใช้ลังถึงในการทำ บางชนิดเทส่วนผสมใส่ถ้วยตะไลแล้วนึ่ง บางชนิดใส่ถาดหรือพิมพ์ บางชนิดห่อด้วยใบตองหรือใบมะพร้าว เช่น ช่อม่วง ขนมชั้น ข้าวต้มผัด สาลี่อ่อน สังขยา
3. ขนมที่ทำให้สุกด้วยการเชื่อม เป็นการใส่ส่วนผสมลงในน้ำเชื่อมที่กำลังเดือดจนสุก ได้แก่ ทองหยอด ทองหยิบ ฝอยทอง เม็ดขนุน กล้วยเชื่อม เป็นต้น
4. ขนมที่ทำให้สุกด้วยการทอด เป็นการใส่ส่วนผสมลงในกระทะที่มีน้ำมันร้อนๆ จนสุก เช่น กล้วยทอด ข้าวเม่าทอด ขนมกง ขนมค้างคาว ขนมฝักบัว
5. ขนมที่ทำให้สุกด้วยการนึ่งหรืออบ ได้แก่ ขนมหม้อแกง ขนมหน้านวล ขนมกลีบลำดวน ขนมทองม้วน สาลี่แข็ง ขนมจ่ามงกุฏ นอกจากนี้ อาจรวม ขนมครก ขนมเบื้อง ไว้ในประเภทนี้ด้วย
6. ขนมที่ทำให้สุกด้วยการต้ม ขนมประเภทนี้จะใช้หม้อหรือกระทะต้มน้ำให้เดือด ใส่ขนมลงไปจนสุกแล้วตักขึ้น นำมาคลุกหรือโรยมะพร้าว ได้แก่ ขนมถั่วแปบ ขนมต้ม ขนมเหนียว ขนมเรไร นอกจากนี้ยังรวมขนมประเภทน้ำ ที่นิยมนำมาต้มกับกะทิ หรือใส่แป้งผสมเป็นขนมเปียก และขนมที่กินกับน้ำเชื่อมและน้ำกะทิ เช่น กล้วยบวชชี มันแกงบวด สาคูเปียก ลอดช่อง ซ่าหริ่ม เป็นต้น
ต้นทุนในการเปิดร้านขนมไทย
สำหรับเงินลงทุนในการเปิดร้านขนมไทยนั้น ใช้ต้นทุนเพียงแค่หลักพัน หรืออาจจะถึงหมื่น ขึ้นอยู่กับปริมาณและประเภทของขนมไทยที่เราจะทำ เพียงแต่เริ่มต้นเปิดร้านอาจใช้ทุนในการซื้ออุปกรณ์เยอะหน่อย
ช่องทางการขายขนมไทย
– เปิดร้านเล็กๆ มีโต๊ะนั้งรับประทาน และมีเครื่อมดื่มขายเสริมด้วย
– เปิดร้านแบบรถเข็นเล็กๆ อาจขายตามศูนย์อาหาร ตลาด หรือแหล่งที่ให้ตั้งขายต่างๆ
– เปิดร้านขายของแบบออนไลน์ ช่วงนี้ขายของออนไลน์กำลังได้รับความนิยม อาจขายได้ทั้งปลีก และส่ง
– แหล่งอื่นๆแล้วแต่ช่องทางในการหาของเราเอง
ที่มา http://www.kingsmes.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น