อาชีพขายขนมลูกชุป อาชีพเสริมสร้างรายได้ยามว่างหลังเลิกงาน


อาชีพขายขนมลูกชุป อาชีพเสริมสร้างรายได้ยามว่างหลังเลิกงานยังอยู่กันที่ของหวานเหมือนเดิมลูกชุปเป็นขนมอย่างหนึ่งที่มอบความหวานให้เราได้อย่างเต็มที่เลย ถ้าหากว่าใครชอบทานจะรู้ถึงความอร่อยของลูกชุปเป็นอย่างดี นอกจากหวานอร่อยแล้วยังมีหน้าตาแปลก ๆ สวยงาม น่ารักอีกด้วย ทำให้ลูกค้าชอบมากขึ้น แม้ว่ารสชาติมันจะเหมือนกันทุกลูกแต่ว่าหน้าตามันต่างกันก็ทำให้ขายได้ด้วยนะ ลองมาเปิดร้านขายลูกชุปเป็นอาชีพเสริมกันดู เป็นขนมหวานที่ทำง่ายอีกด้วย


สำหรับหน้าร้านที่จะวางขายลูกชุปนั้นไม่ต้องมีอะไรมากโต๊ะแค่ตัวเดียวก็พอแล้ว จากนั้นก็แค่ทำหน้าตาและถาดที่วางขายนั้นดูสะอาดและสวยงามก็เป็นการเรียกลูกค้าได้แล้ว สำหรับใครที่กำลังมองหาอาชีพเสริมอยู่ จะมาเปิดร้านขายลูกชุปก็ดีไม่น้อยนะ

แหล่งขาย

สำหรับการวางขายนั้น หน้าโรงเรียน  ตลาดครองถม  ตลาดนัด  ตลาดชุมชน  หรือ ขายส่งตามร้านเบเกอรี่ ฯลฯ


แนวทางขายขนมลูกชุป สร้างรายได้

ถ้าหากทำการขายลูกชุปเป็นอาชีพเสริมของคุณนั้นทำกำไรได้ดีมาก ๆ บางคนก็ออกจากงานประจำมาพัฒนาและตั้งใจกับการทำลูกชุปขายกันกันเป็นอาชีพประจำเลยก็มีซึ่ง เป็นช่องทางการประกอบอาชีพที่อิสระอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ไม่ต้องมีคนมาคอยคุม ไม่ต้องมีใครมาสั่งงาน อยากทำอะไรก็ทำเพราะว่าร้านขายลูกชุปนี้ก็เป็นของตัวเองอยู่แล้ว จะเป็นอาชีพเสริมหรือจะเป็นงานหลักไปเลยก็ลองพิจารณาถึงการสร้างรายได้กันดูนะครับ มีรายได้เป็นกอบเป็นกำเลยที่เดีย

ที่มา http://smesstartup.com



อาชีพขายขนมลูกชุป อาชีพเสริมสร้างรายได้ยามว่างหลังเลิกงาน

แม่ค้าขนมหวานเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ได้ดีไม่แพ้อาชีพขายของกินอื่นๆ


แม่ค้าขนมหวานอาชีพอิสระที่น่าสนใจ อาชีพอิสระที่น่าสนใจในยุคนี้ มีหลากหลายอาชีพแต่อาชีพที่ทำเงินก็คงเป็นประเภทขายของกินของใช้ซึ่งเป็นปัจจัยสี่ที่ทุกคนต้องกินต้องใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน ขายขนมหวานเป็นอาชีพอิสระที่น่าสนใจอีกอาชีพหนึ่ง เพราะขนมหวานมีหลากหลายประเภทสามารถเลือกขายได้ตามความสามารถที่เรามี เช่น ทำขนมหวานไทยๆ 

ขนมหวานชื่อเป็นมงคล หรือขนมหวานตามฤดูกาลอย่างเช่น ข้าวเหนียวทุเรียน ข้าวเหนียวมะม่วง หรือแม้แต่ขนมประเภทเบเกอร์รี่ที่มีให้เลือกขายได้หลากหลายชนิด เป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ได้ดีไม่แพ้อาชีพขายของกินอื่นๆ ความน่าสนใจของอาชีพขายขนมหวานนอกจากเรื่องของความอร่อยหรือรสชาติของขนมที่ทำขายแล้ว 

รูปแบบการจัดร้านรวมถึงภาชนะที่ใช้บรรจุขนมหวานก็มีส่วนสำคัญเพราะนอกจากทำให้ดูน่าทานแล้ว ยังบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ทำให้คนรู้จักคุ้นเคยกับร้านขายขนมหวานของเรามากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น การเปิดร้านขายขนมหวานไทยๆโดยเน้นการขายขนมหวานตามฤดูกาลอย่างเช่น ข้าวเหนียวมะม่วง น้ำกะทิทุเรียน อาจสร้างจุดขายโดยการมูลข้าวเหนียวหลากหลายสีจากดอกอัญชัน จากสีของใบเตย หรือการมูลข้าวเหนียวดำขายคู่กับข้าวเหนียวมูลทั่วไป เมื่อหมดฤดูผลไม้ก็อาจขายเป็นข้าวเหนียวมูลหน้าต่างๆ 

อย่างเช่น ข้าวเหนียวมูลหน้าสังขยา ข้าวเหนียวมูลหน้ากุ้งหรือหน้าปลา จุดเด่นหรือเอกลักษณ์ของร้านก็คือการมูลข้าวเหนียวให้สวยน่าทาน ซึ่งสามารถเรียนรู้ได้ไม่ยากข้อดีของอาชีพอิสระที่น่าสนใจประเภทนี้ก็คือเรียนรู้การทำขนมหวานเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ให้มีความชำนาญเป็นพิเศษจนได้รสชาติที่อร่อยถูกปากถูกใจคนทานก็สามารถทำเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ที่ดีได้


ไม่แตกต่างไปจากอาชีพขายของกินประเภทอื่นๆ อาชีพอิสระที่น่าสนใจทุกอาชีพหากมีความคิดสร้างสรรค์และมีไอเดียในการสร้างจุดเด่นจุดขายที่มีเอกลักษณ์ แตกต่างไปจากร้านค้าอื่นๆจะเป็นการช่วยให้ลูกค้าจดจำเราได้เช่นเดียวกับการขายขนมหวาน หากมีฝีมืออยู่แล้วเพียงจัดวางสินค้าให้ดูน่าซื้อน่าทานยิ่งขึ้น ผู้เขียนเชื่อว่าเป็นอาชีพทำเงินแน่นอนค่ะ



ที่มา http://datacatalog.org


แม่ค้าขนมหวานเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ได้ดีไม่แพ้อาชีพขายของกินอื่นๆ

อาชีพง่ายๆ ที่คนมองข้าม "รีแพ็กกิ้ง" ขนมไทย ขนมปี๊บ ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ



                   นี่คืออีกหนึ่งอาชีพช่องทางทำเงินที่ง่าย ๆ ครับ อาชีพนี้เป็นงานที่ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ ไม่ต้องมีโรงงานผลิตสินค้าเอง ตัวคนเดียวก็สามารถทำได้แล้ว ตรอกไหนซอยไหนขอให้มีร้านของชำ หรือซุปเปอร์มาเก็ต ส่งได้ทุกร้าน หอพักนักศึกษา ร้านกาแฟ สหกรณ์โรงเรียน สหกรณ์โรงพยาบาล ส่งได้หมด  เพียงแค่แพ๊คกิ้งบรรจุให้ดูดี น่ากิน ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว ภาพข้างล่างนี้เป็นตัวอย่างการบรรจุแพ๊คกิ้งที่ผมมองว่าดูดี มองแล้วน่าซื้อ


                     แล้วกลุ่มตลาดละ เราจะส่งที่ไหนดี ผมมองว่ากลุ่มลูกค้าแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ
           กลุ่มลูกค้าระดับบน คือเป็นซุปเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่ ร้านกาแฟที่ดูดีซักหน่อย หรือซุปเปอร์มาเก็ตตามหอพักนักศึกษา  กลุ่มลูกค้าประเภทนี้รูปแบบร้านจะมีการจัดวางสินค้าที่เป็นระเบียบ มีชั้นวางสินค้าที่เป็นสัดส่วน ราคาที่วางขายอยู่ในร้านประเภทนี้จะอยู่ที่ประมาณ 20 -40 บาท ถ้าเราจะเน้นกลุ่มลูกค้าระดับบนเราต้องเน้นการแพ๊คกิ้งให้ดูดีเป็นพิเศษ ให้มองแล้วดูน่าซื้อ น่ากิน โดยส่วนมากถ้าเราส่งทางร้าน 16 บาท ทางร้านก็จะขายอยู่ที่ 20 

            ส่วนกลุ่มลูกค้าระดับล่าง ก็จะเป็นร้านขายของชำ หรือซุปเปอร์มาเก็ตขนาดเล็ก หรือตามสหกรณ์โรงเรียน สหกรณ์โรงพยาบาล  ราคาที่วางขายกันอยู่ก็จะประมาณ 10 - 20 บาท อันนี้การแพ๊คกิ้งไม่ต้องถึงกับเลิศหรูมาก แต่ก็ต้องให้ดูดีพอประมาณ  ราคาขายส่งก็จะอยู่ที่ห่อละ 8 บาท ทางร้านก็จะขายในราคา 10 บาท

                      เมื่อรู้กลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายแล้ว เราก็มาดูต้นทุน และวัสดูอปกร์ที่ต้องใช้ในการแพ๊คขนมกันครับ   เงินลงทุนขั้นต่ำควรมีซักประมาณ 10,000. บาท โดยแบ่งเป็น
      1. สำหรับซื้อขนมปี๊บขนาด 5 กิโล  ราคาประมาณปี๊บละ 280 - 450 บาท แล้วแต่ชนิดของขนม  โดยอาจจะทดลองซัก 10 ปี๊บก่อน 
      2. เครื่องซีลปากถุง ราคาตั้งแต่ 850 - 3,000. บาท แนะนำว่าควรใช้ราคาประมาณพันกว่าบาทก็พอแล้ว

     
3.ถุงใส่สำหรับแพ๊คกิ้ง และตราชื่อของคุณ ถุงใส่นั้นมีขายตามร้านขายอุปกร์ทำเค้กหรือเบเกอรี่ทั่วไป ส่วนตราหรือโลโก้นั้น ถ้าทำเองไม่เป็นก็ไปให้ร้านทำป้าย หรือร้านคอมเขาออกแบบให้ ไม่กี่ตังค์ครับ ทุนตรงนี้ก็ไม่เกิน 2,000. บาท

                      ผมขอแนะนำว่าเราควรทดลองชิมขนมที่เราหมายตาไว้ว่าจะส่งขาย โดยไปทดลองซื้อแบบที่เขาแบ่งขายดูก่อน ซื้อมาชนิดละ สิบหรือยี่สิบบาท เราชิมแล้วถูกใจรสชาติแบบไหน ก็ซื้อยกปี๊บจากแหล่งขายส่ง ซื้อเสร็จแล้วก็มาคำนวนดูว่าตกต้นทุนประมาณกิโลละกี่บาท ถ้า1 กิโลเราจะสามารถแพ๊คได้กี่ถุง  อย่าลืมบวกต้นทุนเรื่องค่าขนส่งไปด้วยนะครับ     เพราะรถต้องใช้น้ำมันในการวิ่งติดต่อส่งขนม  เรื่องเงินก็แล้วแต่เราจะตกลงกับทางร้านที่เราจะไปส่งว่าจะเก็บเป็นเงินสด หรือรอบบิล หนึ่งอาทิตย์มาเก็บเงินก็ได้   อันนี้ไม่มีกฏเกณฑ์ตายตัว ถ้าแพ๊คกิ้งดูดี ราคาไม่แพง รสชาติถูกปากลูกค้ายังไงก็ขายได้ ขึ้นชื่อว่าของกิน  ฝากเป็นเคล็ดลับนิดหนึ่งครับ ถ้าร้านไหนมีชั้นวางสินค้าเป็นระเบียบ เป็นสัดส่วนมักจะขายดี ถ้าเลือกเจาะกลุ่มได้ก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่

                      ใครสนใจอยากหารายได้เสริมก็น่าสนใจนะครับ คนมีงานประจำอยู่แล้วก็สามารถทำได้        วางแผนการติดต่อส่งร้านค้า วนรอบหนึ่งอาทิตย์ก็ไปเช็คดูสักครั้ง ผูกมิตรกับร้านค้าไว้ ยิ้มแย้มแจ่มใสเวลาพูดคุยติดต่อ มีขนมให้เจ้าของร้านได้ลองชิมดูบ้าง ได้ใจเขาแน่นอน ก็ฝากไว้อีกหนึ่งอาชีพช่องทางทำเงินครับ

ที่มา http://number1money.blogspot.com

อาชีพง่ายๆ ที่คนมองข้าม "รีแพ็กกิ้ง" ขนมไทย ขนมปี๊บ ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ

เปิดร้านขายขนมเครปญี่ปุ่น ! อาชีพเสริม ลงทุนน้อย รายได้หลักพันต่อวัน


 สวัสดีครับ วันนี้ KingSMEs มีไอเดียอาชีพเสริม ลงทุนน้อย ที่สามารถทำรายได้ เลี้ยงตัวเองและเลี้ยงครอบครัวได้ มาฝากกันครับ อาชีพเสริม ลงทุนน้อยนี้ก็คือ เปิดร้านขายขนมเครปญี่ปุ่น ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการ ทำมาหากิน ที่คุณสามารถทำได้ ใช้เงินลงทุนน้อย สร้างรายได้งาม ๆ ให้กับเพื่อน ๆ กันอีกด้วย

เปิดร้านขายเครปญี่ปุ่น ลงทุนเท่าไหร่ ?

เงินลงทุนครั้งแรกประมาณ 5,000 – 10,000 บาท เตาเครป ( ไฟฟ้า ) ประมาณ 500 – 2,000 บาท แล้วแต่เกรด เตาเครปแก๊ส ประมาณ 7,500 บาท ไม้ปาดเครป ประมาณ 100 บาท เกรียงเหล็ก 35 บาท เกรียง สแตนเลส 65 บาท

เครปญี่ปุ่น

เปิดร้านขายขนมเครปญี่ปุ่น เริ่มต้นอย่างไร ?

อุปกรณ์ เตาเครป ไม้ปาดเครป เกรียง ที่ตีไข่ กะละมัง ทัพพีกลม ซองใส่เครป
แหล่งจำหน่ายอุปกรณ์ ร้านค้า หรือบริษัทขายเตาอบ ห้างสรรพสินค้าทั่วไป

วิธีทำเครปญี่ปุ่น

ส่วนผสมแป้ง ไข่ไก่ 10 ฟอง น้ำตาลทราย 1- 1.½ ถ้วย ( 300 กรัม) วนิลา 15 มิลลิเมตร น้ำมันพืช 60 มิลลิลิตร เกลือ 1 ช้อนชา นมสด 1 กล่อง ลิตร แป้งสาลีเอนกประสงค์ 8 ถ้วยตวง เนยสด (ทาแผ่นแป้ง)
ส่วนผสมไส้ แยมรสผลไม้ต่าง ๆ ลูกเกรด หมูหยอง แฮมไส้กรอก จะราดด้วยชอสมะเขือเทศ หรือมายองเนส
เผือกกวนเหลว น้ำพริกเผากับหมูหยอง น้ำผึ่งกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์ กล้วยกับช็อคโกแลต

วิธีการทำ

1. ผสมไข่ไก่ น้ำตาลทราย วนิลา น้ำมันพืช เกลือ ใช้ที่ตีไข่ละลายเข้าด้วยกัน
2. ใส่นมสดและแป้ง ตีให้เข้ากัน แต่ถ้าเหลวเกินไปเติมแป้งได้อีกเล้กน้อย
3. วอร์มเตาโดยใช้ความร้อน ประมาณ 150 -180 องศาเซลซียส
4. ใช้ทัพพีกลมตักแป้งใส่บนเตาเครปตรงกลาง ใช้ไม้ปาดเครปวางตรงกลางแป้งค่อยๆ ปาดแป้งโดยหมุนเป็นวงกลม
5. ทาเนยบนแผ่นแป้ง พอสุกแล้ว ใส่ไส้ต่าง ๆ ตามที่ลูกค้าต้องการ ใช้เกรียงแชะขอบแผ่นแป้งให้พับขึ้น มาเป็นรูปครึ่งวงกลม แล้วพับทบกันให้เป็นรูปทรงสามเหลี่ยม ตักใส่ถุงเครปได้เลย
เปิดร้านขายขนมเครปญี่ปุ่น ! อาชีพเสริม ลงทุนน้อย รายได้หลักพันต่อวัน+3

ตลาดแหล่งจำหน่าย ชุมชน ตลาด ศูนย์การค้าต่างๆ

หากทำปริมาณมาก ๆ ต้องเพิ่มอัตราส่วนทุกชนิดให้มากขึ้น ทุกอย่างทำตามสูตร ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถ การขายขนมเครปญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะนิยมเร่ขายทั่วไป หรือขายตามตลาดนัดต่าง ๆ สถานที่ที่มีการจัดงานใหญ่ ๆ เช่น งานแข่งขันกีฬา อาชีพนี้ก็เป็นอีกอาชีพเสริม ลงทุนน้อยที่สร้างรายได้ดี สิ่งที่สำคัญคือ ฝืมือในการทำที่จะทำให้ดึงดูดลูกค้า ดังนั้นควรพัฒนาสูตรการทำให้อร่อยติดปากลูกค้าครับ
ที่มา http://www.kingsmes.com


เปิดร้านขายขนมเครปญี่ปุ่น ! อาชีพเสริม ลงทุนน้อย รายได้หลักพันต่อวัน

ขายข้าวโพดคลุกเนย !! อาชีพเสริมลงทุนแค่หลักพัน 


ขายข้าวโพดคลุกเนย

 เป็นอาชีพเสริมลงทุนน้อย ทำง่าย เป็นของกินเล่นที่ขายได้กำไรดี และที่สำคัญขายได้ตลอดปี โดยเฉพาะบริเวณหน้าโรงเรียน หน้ามหาวิทยาลัย หรือตลาดนัด หลาย ๆ คนคงเคยทานข้าวโพดคลุกเนยอย่างแน่นอน โดยข้าวโพดคลุกเนย เป็นของกินเล่นที่ใครหลาย ๆ คนต่างชื่นชอบ ข้าวโพดนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก เพราะมีไยอาหารมาก ทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ ข้าวโพดคลุกเนย สามารถทำขายเป็นอาชีพเสริมได้ตลอดทั้งปี  สามารถทำกำไรได้ถึงวันละ 300 – 400 บาทขึ้นไปเลยทีเดียว

ขายข้าวโพดคลุกเนยเริ่มต้นอย่างไร ?
อุปกรณ์ที่ใช้
  • เตาแก๊สปิกนิก และหม้อสำหรับต้มข้าวโพด หรือกระทะไฟฟ้า
  • อ่างเล็กสำหรับคลุกข้าวโพด ทัพพี ,ทิชชู ,หนังยาง
  • ข้าวโพดหวาน 10 กิโลกรัม ราคา 80- 100 บาท/ถุง
  • แก้วพลาสติกเล็ก 4 – 6 ออนซ์ ราคาแถวละ 25-30 บาท
  • น้ำตาลทรายขาว กิโลกรัมละ 24 บาท
  • นมสดกระป๋อง กระป๋องละ 20 บาท
  • เนยเค็ม ก้อนละประมาณ 70 บาท
  • ช้อนพลาสติก ราคา 10-15 บาท
การขายข้าวโพดครั้งแรก ให้ทำขึ้นมาสำหรับขายแค่ 2 กิโลกรัมดูก่อน ถ้าขายดีก็ค่อยต้มเพิ่ม เพราะลูกค้ายังไม่ค่อยรู้จัก คนก็อาจจะยังซื้อน้อย ขายน้อยดีกว่าทำแล้วขายไม่หมดขาดทุน
ขายข้าวโพดคลุกเนย !! อาชีพเสริมลงทุนแค่หลักพัน [ พร้อมสูตรลับทำขาย ]

วิธีทำข้าวโพดคลุกเนย
  1. ล้างข้าวโพดให้สะอาด จากนั้นนำเมล็ดข้าวโพดไปต้มให้สุกในน้ำร้อนจัด  น้ำที่ใช้ต้มควร       เป็นน้ำดื่มไม่ใช่น้ำก๊อก เวลาต้มใส่ใบเตยลงไป 2 ใบ ใส่น้ำตาลและเกลือเล็กน้อย เพื่อให้         ข้าวโพดที่ได้มีรสหวานและเค็มเล็ก ๆ ( ข้าวโพดดิบ 2 กิโลกรัม ต่อน้ำต้มเดือด 3 ลิตร ใส่         น้ำตาล 100 กรัม และเกลือปลายช้อน )
  2. เมื่อข้าวโพดที่สุกดีแล้ว จนเมล็ดข้าวโพดที่ต้มลอย ก็ซ้อนเมล็ดขึ้น ใส่ในซึ้งนึ่งเวลาขาย         เพื่อให้ข้าวโพดร้อนตลอดเวลา
  3. อุปกรณ์ในการปรุง มีชาม 1 ใบ ทัพพี 1อัน ไว้สำหรับคลุกข้าวโพดให้เข้ากัน
  4. ตักข้าวโพดใส่ลงในชาม  2 ทัพพี ( ประมาณ 100 กรัม )
  5. จากนั้นตักเนย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 2 ช้อนครึ่ง ( ช้อนโต๊ะเล็ก ) นมจืด 1 ทัพพี แล้วคลุกทุก       อย่างให้เข้ากัน
  6. เสร็จแล้วเทใส่ถ้วย 6 ออนซ์ที่เตรียมไว้สำหรับขายได้เลย เอาทิชชูพันแก้วด้วย เพื่อกัน          ร้อนและกันเลอะมือ
ขายข้าวโพดคลุกเนย !! อาชีพเสริมลงทุนแค่หลักพัน [ พร้อมสูตรลับทำขาย ]



ขายข้าวโพดคลุกเนย กำไรดีไหม ?
ข้าวโพด 10 โล ขายแก้วละ 15 บาท ก็จะได้ 600 บาท ซึ่งมีต้นทุน อยู่ที่ 250 บาท เมื่อเราหักต้นทุนแล้วเราจะได้กำไรประมาณ 350 บาท/ข้าวโพด 10 กิโลกรัม จัดเป็นอาชีพเสริมกำไรดีอีกอาชีพหนึ่ง
การขายข้าวโพดคลุกเนย ถ้าจะทำเป็นอาชีพเสริมแบบถาวร ต้องทำขายอยู่ในทำเลที่มีคนผ่านไปผ่านมาเยอะ ๆ ถึงจะมีลูกค้ามากพอ ให้มีกำไรอยู่ได้ แล้วลูกค้าคนกินไม่เบื่อง่าย แต่หากทำขายอยู่กับที่ ในชุมชนของตนเองที่มีคนจำกัด เห็นบ่อย ๆ ทานบ่อย ๆ ก็คงเบื่อกันบ้าง ดังนั้นจึงทำขายได้แค่ระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ขายไปสักพักลูกค้าก็เบื่อ ทำเลที่สำคัญเลยก็คือตลาดนัด หากทำเลดี ๆ ทำขายดี ๆ รับรองได้ว่ากำไรเกินพันต่อวันแน่นอนครับ
ที่มา http://www.kingsmes.com

ขายข้าวโพดคลุกเนย !! อาชีพเสริมลงทุนแค่หลักพัน